เขียนโดย BANGYA BONG ZING
04 มิถุนายน 2566
วันที่ 4 มิ.ย.66 อ.เดชา ศิริภัทร (หมอเดชา) เจ้าของสูตรน้ำมันกัญชา (ตำรับหมอเดชา) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Deycha Siripatra ระบุว่า "ครบรอบ 4 ปีการเดินรณรงค์เพื่อเอากัญชาออกจากบัญชียาเสพติดวันที่ 13(2 มิ.ย.2562) เช้าวันที่ 2 มิถุนายน 2562 เริ่มต้นกิจกรรมที่อนุสรณ์สถาน น.พ.สมหมาย ทองประเสริฐ วันนี้มีแขกพิเศษเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคอนาคตใหม่ชื่อ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์มาร่วมเดิน ก่อนเดินในตอนเช้า ผมมีหน้าที่พูดให้กำลังใจและแนะนำธรรมะที่นำมาใช้งานได้ง่ายๆ วันนี้ผมให้คุณพิธา พูดต่อจากผม ถึงเหตุผลที่มาร่วมเดินด้วยในครั้งนี้ และเรื่องอื่นๆ สิ่งที่คุณพิธา พูดตอนเช้าไม่ได้บันทึกไว้ แต่ในการเดินมีสื่อสัมภาษณ์และนำไปเผยแพร่ เนื้อหาของการพูดตอนเช้ากับตอนเดินก็เหมือนกัน คือสนับสนุนให้กัญชาไม่เป็นยาเสพติด ผมนำเรื่องนี้มาเขียนและโพสต์วันนี้เพราะเป็นวันครบรอบ4ปีพอดี คนที่เข้าร่วมเดินก็โพสต์ไม่ได้มีจุดประสงค์ทางการเมืองใดๆทั้งสิ้น เพราะผมไม่เคยสังกัดหรือสนับสนุนพรรคใด เพียงต้องการแสดงจุดยืนของผมในเรื่องกัญชา ซึ่งยึดประสบการณ์ตรงและข้อเท็จจริง การต่อสู้เพื่อไม่ให้เอากัญชาเข้าบัญชียาเสพติด ก็ไม่มีผลประโยชน์ส่วนตัวมาเกี่ยวข้อง ผมไม่เคยใช้กัญชาทางนันทนาการ แต่ผมสนับสนุนให้ประเทศไทยอนุญาตให้ใช้ได้ โดยมีมาตรการทางกฏหมายควบคุมเช่นเดียวกับเหล้าและบุหรี่ เป็นมาดรฐานเดียวกัน เพราะกัญชามีโทษน้อยกว่าเหล้าและบุหรี่มาก สามารถนำมาใช้แทนเหล้าและบุหรี่ได้ ยิ่งกว่านั้นผู้ใช้กัญชายังเลิกเหล้า บุหรี่ แม้แต่ยาบ้าก็เลิกได้ ถ้าใช้กัญชาอย่างถูกต้อง นอกจากนี้ยังช่วยลดการใช้ยาแผนปัจจุบันที่มีผลข้างเคียงเป็นอันตรายและราคาแพงได้ ช่วยลดอุบัติเหตุ ลดอาชญากรรม ลดความรุนแรงในครอบครัว ฯลฯตามข้อมูลที่มีปัจจุบัน ไม่นับการใช้เป็นยารักษาโรคที่ผ่านงานวิจัยอย่างเป็นทางการแล้วทั้งในและต่างประเทศ
ตัวอย่างเช่นน้ำมันกัญชาตำรับหมอเดชา ที่กรมแพทย์แผนไทยฯวิจัยรักษาโรค 8 โรค ใช้เวลา2ปีเต็ม(ต.ค.2562ถึง ต.ค.2564)กับคนไข้กว่าแสนราย ได้ผลเกิน 80% ทุกโรคปัจจุบันน้ำมันกัญชาตำรับหมอเดชา ถูกบรรจุอยู่ในโครงการ30บาทรักษาทุกโรคแล้ว โรคในโครงการฯมี3โรคคือ มะเร็ง พาร์คินสันและไมเกรน มีอยู่ในกว่า 300โรงพยาบาล ปัญหาก็คือ งานวิจัย 8 โรคแต่นำมารักษาจริงเพียง 3 โรค และคนไข้ส่วนใหญ่ไม่ได้รับยา เพราะแม้จะเป็น3โรคนั้น ส่วนใหญ่หมอจะไม่สั่งจ่ายน้ำมันกัญชาตำรับหมอเดชาให้คนไข้ เช่นเป็นมะเร็ง
ส่วนใหญ่หมอจะส่งไปรับเคมีบำบัด(คีโมฯ)ไม่สั่งให้รักษาด้วยน้ำมันกัญชาฯ จากประสบการณ์ตรง ในการรักษาคนไข้ในฐานะหมอพื้นบ้าน ผมเห็นข้อจำกัดมากมาย การฝากความหวังในการใช้กัญชารักษาโรคไว้ในระบบ หรือหมอนั้นมีประโยชน์น้อย ต้องเปิดโอกาสและส่งเสริมให้ประชาชนนำกัญชาไปใช้ป้องกันและรักษาโรคด้วยตัวเอง เหมือนกับสมุนไพรทั่วไปที่ประชาชนใช้ได้โดยปลอดภัย ทั่วถึง ประหยัดและพึ่งตัวเองได้ เป็นการแบ่งเบาภาระของหมอและบุคลากรทางการแพทย์ที่งานหนักและไม่เพียงพอยู่แล้ว ตัวอย่างน้ำมันกัญชาตำรับหมอเดชา ประชาชนทำใช้ได้ถูกกฏหมาย ปลอดภัย ราคาถูกใช้ได้ทั้งป้องกันและรักษา มากมายหลายโรคที่ยังไม่ได้วิจัยเป็นทางการ ก็ใช้ได้ผลมาแล้วแต่ถ้านำกัญชากลับเข้าเป็นยาเสพติด การใช้กัญชารักษาโรคจะถูกจำกัดจนแทบไร้ค่าการพึ่งตนเองทางสุขภาพหรือความมั่นคงทางยาของประชาชนก็จะหมดไป ต้องพึ่งหมอยังมีเหตุผลอีกมากมายหลายอย่าง ทำให้ผมและคนไทยอีกมากมาย ต้องออกมาส่งเสียงเพื่อบอกกับผู้ที่จะเข้ามาเป็นรัฐบาลชุดใหม่ว่า อย่าเอากัญชากลับไปเป็นยาเสพติดอีกเลยถ้าไม่อยากเห็นประชาชนไทย รวมตัวกันต่อสู้ในรูปแบบต่างๆ อย่างไม่มีใครหยุดได้เพราะประชาชนเห็นได้ชัดว่า นโยบายเอากัญชาเป็นยาเสพติด มาจากกลุ่มผลประโยชน์ที่เกาะกินประชาชนมาเนิ่นนาน และถูกกัญชามาทำให้ประชาชนเป็นอิสระจากปรสิตนั้นๆรัฐบาลที่มีนโยบายเอากัญชาเป็นยาเสพติด คือรัฐบาลที่รับใช้ปรสิตให้มาเกาะกินชาวบ้านรัฐบาลที่รับใช้ปรสิตได้แล้วนั้น หากปล่อยเอาไว้นานเข้า ก็จะกลายเป็นรัฐบาลปรสิตเอง ผมคิดว่าประชาชนคนไทยส่วนใหญ่ คงร่วมกันต่อสู้กับรัฐบาลปรสิตอย่างแน่นอน"
ถ้าตอบไม่ได้ก็ไปหาในข้อมูลออนไลน์ได้ง่ายๆเพราะมีการวิจัยทั่วโลกมานานแล้ว เมื่อคำตอบคือ สุรามีโทษมากกว่าและประโยชน์น้อยกว่าอย่างชัดเจน มีเหตุผลอะไรที่ MOU ฉบับนี้จึงมุ่งส่งเสริมสุรา และกีดกันกัญชา เพื่อประโยชน์ของใคร
สุดท้ายนี้ขออธิษฐานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในประเทศไทยและสากลโลก ขอให้ท่านโปรดดลบันดาลให้ MOU ฉบับนี้จงประสพความล้มเหลว ไม่ว่าจะเกิดจากกลุ่มพรรคการเมืองทั้ง 8 นี้ ไม่ได้เป็นรัฐบาลตั้งแต่แรกหรือมีบางพรรคได้เป็นรัฐบาล แต่ไม่มีนโยบายทั้งสองข้อนี้ในการบริหารประเทศ
สินค้าภายในร้าน BANGYA BONG ZING
Comments