top of page
รูปภาพนักเขียนBANGYA BONG ZING

กัญชารักษาโรคมะเร็งได้จริงหรือไม่ และประสบการณ์การใช้น้ำมันกัญชารักษาโรคมะเร็ง

อัปเดตเมื่อ 21 มี.ค. 2566


 

มีหลายท่านที่สงสัยหรือกำลังหาคำตอบว่ากัญชาสามารถช่วยรักษาโรคมะเร็งได้หรือไม่ และมีโอกาสมากน้อยแค่ไหนที่จะหายหรือดีขึ้นวันนี้บังจะมา บอกเล่าความรู้และประสบการณ์ของบังเกี่ยวกับกัญชาให้สหายทุกๆท่านได้ข้อมูลมากขึ้นนะคับ มาเข้าเรื่องกัญเลยดีกว่าต้องขอเท้าความตั้งแต่ต้นก่อนเลยนะคับ


กัญชาหรือที่เรียกว่า Cannabis ถูกนำมาใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการแพทย์มานานหลายศตวรรษ เมื่อเร็ว ๆ นี้ ผู้คนมีความสนใจเพิ่มขึ้นในศักยภาพของกัญชาในการรักษาโรคมะเร็ง ในขณะที่การวิจัยยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น การศึกษาบางชิ้นแนะนำว่ากัญชาอาจมีคุณสมบัติต้านมะเร็งและสามารถใช้เป็นการรักษาเสริมควบคู่ไปกับการรักษามะเร็งแบบแพทย์แผนปัจจุบันทั่วไป


ในดอกกัญชามีสารประกอบมากกว่า 100 ชนิดที่เรียกว่า cannabinoids สาร cannabinoids ที่รู้จักกันดีที่สุดสองชนิด ได้แก่ tetrahydrocannabinol (THC) และ cannabidiol (CBD) THC เป็นสารประกอบออกฤทธิ์ทางจิตที่ก่อให้เกิด "เมา" ที่เกี่ยวข้องกับการใช้กัญชา ในขณะที่ CBD ไม่ก่อให้เกิดเมาและได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีประโยชน์ทางยา



รูปภาพสายพันธุ์ของกัญชาและการออกฤทธิ์ของแต่ละสายพันธุ์
รูปภาพสายพันธุ์ของกัญชาและการออกฤทธิ์ของแต่ละสายพันธุ์

งานวิจัยหลายชิ้นแนะนำว่า cannabinoids อาจมีผลต้านมะเร็งโดยตรง


  • สารในกัญชาช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเนื้องอก : การศึกษาพบว่า cannabinoids สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งชนิดต่างๆ ในแบบจำลองสัตว์ รวมถึงมะเร็งเต้านม ปอด และลำไส้ใหญ่


  • สารในกัญชากระตุ้นการตายของเซลล์มะเร็ง : การศึกษาพบว่าสาร Cannabinoids กระตุ้นให้เซลล์มะเร็งตาย (apoptosis) ในมะเร็งบางชนิด รวมถึง glioblastoma ซึ่งเป็นมะเร็งสมองชนิดหนึ่ง


  • สารในกัญชายับยั้งการย้ายถิ่นและการบุกรุกของเซลล์มะเร็ง : การศึกษาพบว่า Cannabinoids ยับยั้งความสามารถของเซลล์มะเร็งในการโยกย้ายและบุกรุกเนื้อเยื่อที่มีสุขภาพดี ซึ่งเป็นลักษณะสำคัญของการแพร่กระจายของมะเร็ง


  • สารในกัญชาช่วยลดการอักเสบ : การอักเสบเรื้อรังสามารถนำไปสู่การเกิดมะเร็งได้ สารแคนนาบินอยด์ได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีคุณสมบัติต้านการอักเสบ ซึ่งสามารถช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งได้


นอกจากนี้ยังมีรายการจากผู้เป็นมะเร็งและได้ทำการรักษาด้วยกัญชาเพียงอย่างเดียวจนหายขาด โดยไม่เข้ารับการรักษาใช้ยาเคมีบำบัดของแพทย์แผนปัจจุบัน เพราะผู้ป่วยรายนั้นมองว่าถ้าจะให้ใช้ยาเคมีบำบัดก็ไม่ต่างอะไรจากการเอายาพิษฉีดเข้ากระแสเลือดตัวเอง มันยิ่งกว่าการฆ่าตัวตายด้วยซ้ำไป


ช่อดอกกัญชาสายพันธุ์ไทยหางกระรอก (Thai Stick)
ช่อดอกกัญชาสายพันธุ์ไทยหางกระรอก (Thai Stick)

ผลข้างเคียงของการใช้กัญชา


ปัญหาที่พบของการใช้กัญชาคือผู้คนมักไม่ได้ศึกษาก่อนใช้ว่ากัญชาที่เรานำมาใช้คือสายพันธุ์อะไรเด่นทางด้านไหน และอาจใช้ในปริมาณที่ไม่ถูกต้องหรือถูกวิธี บังจะพาไปดูคุณสมบัติเด่นของแต่ละสายพันธุ์กัญคับ


  • การใช้กัญชาสายพันธุ์ซาติวา (Sativa) ซึ่งโดยเด่นเรื่องสาร THC ที่มีมากเป็นพิเศษ จะทำให้อัตราการเต้นของหัวใจที่เพิ่มขึ้น ความดันโลหิตลดลง โดยเฉพาะเมื่อลุกขึ้นยืนจะมีอาการวิงเวียนศีรษะหรือหน้ามืดคล้ายจะเป็นลม ผลข้างเคียงของกัญชาอาจทำให้เกิดอาการง่วงนอนหรือความรู้สึก "เมา"


  • การใช้กัญชาสายพันธุ์อินดิก้า (Indiga) ซึ่งโดยเด่นเรื่องสาร CBD ที่มีมากเป็นพิเศษจะให้ความรู้สึกผ่อนคล้าย สดชื่น กระปรี่กระเป่า มากกว่าความรู้สึกเมา

นอกจากนี้ ผู้ป่วยมะเร็งบางรายรายงานว่าการใช้กัญชายังช่วยจัดการกับอาการต่างๆที่ได้รับจากยาเคมีบำบัด เช่น อาการปวด คลื่นไส้ และเบื่ออาหาร ซึ่งอาจเป็นผลข้างเคียงของการรักษามะเร็ง ในบางกรณีแพทย์อาจสั่งกัญชาทางการแพทย์เพื่อช่วยบรรเทาอาการเหล่านี้ควบคู่ไปกับรักษา แต่ก็น้อยมากเพราะอะไรรู้ๆกัญดีนะคับ ไม่ได้อยากโจมตีวงการใดหรือใครแต่ภาพที่จบเจอหรือประสบการณ์ที่ผ่านบอกได้เลยว่า ระหว่างจรรยาบรรณกับเงินตรา มนุษย์มักเลือกสิ่งที่ทำให้ตัวเองสุขสบายก่อนเสมอ


ผู้คนมักกังวลกับการใช้กัญชาว่าจะมีผลข้างเคียงที่รุนแรง จะเสพติดหรือไม่ จะกลายเป็นคนวิกลจริตหรือไม่ จะกลายเป็นโรคซึมเศร้าหรือไม่


จากประสบการณ์ของบังที่ใช้กัญชามา 20ปี บังยังไม่เคยเห็นคนตายเพราะใช้กัญชาหรือจากคนดีๆใช้กัญชาแล้วกลายเป็นคนวิกลจริตเลยคับ กัญชาไม่ได้ต่างอะไรไปจากพืชพันธุ์ผลไม้ที่เราทานกัญทุกวันเลยคับ แค่เราทานให้ถูกวิธีรู้จักกะปริมาณการใช้ให้ถูกต้องก็ช่วยลดปัญหาหรือผลข้างเคียงไปได้แล้วคับ ถ้าดอกไม้มันน่ากลัวขนาดนั้น สารเคมีบำบัดที่หมอฉีดเข้าไปในร่างกลายผู้ป่วยโรคมะเร็งไม่น่ากลัวมากกว่าหรอ สหายว่าจริงหรือไม่คับ


ประสบการณ์ตรงใช้กัญชารักษาโรคมะเร็ง และโรคอื่นๆ


มาถึงตรงนี้บังขอเล่าประสบการณ์ตรงเกี่ยวกับการใช้กัญชารักษาโรคมะเร็งของภรรยาบัง ซึ่งเธอได้เสียชีวิตไปแล้ว มาเข้าเรื่องกัญเลยดีกว่าคับบังขอเล่าแบบกระชับและสั้นที่สุดนะคับเพื่อสหายทุกๆท่านได้สาระมากที่สุด


เช้าวันนึงซึ่งก็ดูเหมือนจะเป็นวันที่ปกติสุขของคนทั่วๆไป แต่ภรรยาบังอยู่ดีๆก็มีอาการลุกขึ้นมาจากเตียงแล้วหน้ามืด และได้ล้มไปกระแทกกับขอบเตียงจนเวลาต่อมาเธอก็มีรอยเขียวช้ำ ซึ่งบังก็ไม่ได้คิดอะไรมากเพราะมันปกติ คนที่เดินกระแทกหรือชนกับอะไรก็สามารถเขียวช้ำได้ หลังจากนั้น 1 วัน รอยเขียวช้ำก็เปลี่ยนไปเป็นสีม่วงคล้ำซึ่งมันเป็นลักษณะที่น่ากลัวขึ้น บังได้พูดกับภรรยาว่าไปโรงพยาบาลเถอะอาการดูไม่ดีเลย ตั้งแต่เมื่อวานจนเธอยอมไปโรงพยาบาล


หลังจากที่แพทย์เวรได้ตรวจอาการเบื้องต้นและบอกกับบังว่าอาจจะต้องส่งตรวจแบบระเอียดอีกรอบนึงกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพราะทาง บังก็รู้สึกแปลกๆผิดปกติเกี่ยวกับอาการของภรรยา จนเมื่อผลการตรวจจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางออกมา เหมือนฟ้าผ่าลงกลางใจผลตรวจออกมาว่าเธอเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวหรือ ลูคีเมีย (Luchemia) ซึ่งเป็นโรคมะเร็งที่ร้ายแรงที่สุดในโรคมะเร็ง


หลังจากที่ผลการตรวจออกมาและได้มีการคุยกับญาติพี่น้องของภรรยาบังทางครอบครัวของเธอเลือกวิธีการรักษาแบบแพทย์แผนปัจจุบันโดนการใช้ยาเคมีบำบัด ซึ่งมันก็ไม่แปลกเลยที่คนปกติทั่วไปจะเลือกเดินเข้าหาหมอในเวลาที่ตัวเองไม่สบาย หลังจากที่เริ่มต้นการรักษาของแพทย์แผนปัจจุบันอาการของภรรยาบังทรุดลงเรื่อยๆ ไม่มีท่าทีว่าจะดีขึ้นเริ่มมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร เป็นแผลในปากและกระเพาะหลังจากได้รับยาเคมีบำบัด บังพยายามหาวิธีที่จะช่วยเหลือเธอ หรือบรรเทาอาการของเธอได้บ้างจนได้ไปเจอกับพี่เล็ก (ผู้ที่สอนการสกัดน้ำมันกัญชาแบบเอทิลแอลกอฮอร์ให้บังและยังเป็นผู้ป่วยโรคมะเร็งลำไส้)


หลังจากที่ได้เจอกับพี่เล็ก แกเข้าใจความรู้สึกของบังได้เป็นอย่างดีจึงได้ถ่ายทอดวิชาการสกัดน้ำมันกัญชาให้บังซึ่งตอนนั้นกัญชายังเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายในประเทศไทย การสอนการแนะนำวิธีการสกัด การผลิต ถือว่ามีความผิดร้ายแรงมากถึงขั้นติดคุกติดตาราง แต่พี่เล็กก็ได้ถ่ายทอดความรู้และวิธีบรรเทาอาการจากยาเคมีบำบัดให้กับบัง ถ้าจะหาคนที่เข้าใจความรู้สึกบังได้มากที่สุดในตอนนั้น คงไม่มีใครเข้าใจความรู้สึกบังได้ดีเท่ากับคนที่เคยผ่านและกำลังเผชิญกับโรคๆนี้อยู่เป็นแน่


ระหว่างผิดกฎหมายกับช่วยคนที่เรารัก ถ้าเป็นสหายจะเลือกเคารพกฎหมายเป็นคนดีของสังคมและให้ยืนมองดูความเจ็บปวดของภรรยาหรือ ยอมเป็นคนผิดยอมเสี่ยงคุกเสี่ยงตาราง เพื่อทำอะไรก็ได้ที่จะบรรเทาอาการเจ็บปวดของคนที่เรียกภรรยา สำหรับบังถ้าจะต้องติดคุก 10ปี แต่ภรรยามีโอกาสหายหรือแค่ดีขึ้นเพียง 0.1% บังยอมคับ ความเป็นคนมันมากกว่าสิ่งอื่นใด และหลังจากที่ได้ทำการหาวัตถุดิบและสกัดจนสำเร็จก็ได้แอบเอามาให้ภรรยาลองใช้ระหว่างการรักษาด้วยเคมีบำบัด (บังได้ทดลองกับตัวเองก่อนแล้วนะคับ) ผลปรากฎว่ากินข้าวได้ นอนหลับดีขึ้น หน้าตาก็สดใสขึ้นมาบ้างจากคนที่นอนไม่ได้เลย (ผลจากยาเคมีบำบัดจะรู้สึกร้อนไปทั้งร่างกายนอนหลับๆตื่นๆ)


อย่างน้อยๆ น้ำมันกัญชาก็แสดงให้เห็นว่าถึงมันจะมีฤทธิ์อาการเมาบ้าง แต่อาการเมาของมันก็ช่วยในเรื่องการพักผ่อนที่สมบูรณ์ขึ้น ไม่ใช่คนนอนไม่หลับหรือนอนหลับๆตื่นๆ สุขภาพจะดีได้ยังไงจริงไหมคับ ถึงเวลาใช้น้ำมันกัญชามันจะปากแห้งไปบ้าง แต่มันก็ช่วยทำให้อยากอาหารมากขึ้น ผู้ป่วยที่ทานอาหารวันละมื้อกับผู้ป่วยที่ทานอาหารได้วันละ 3มื้อ มันต่างกัญนะคับ ไม่ต้องถามว่าคนไหนมีโอกาสหายป่วยก่อนนะคับ เด็ก ป.4 ยังรู้เลย ถ้าไม่โกง


รูปภาพขั้นตอนการสกัดน้ำมันกัญชาแบบบ้านๆ โดยใช้หม้อหุงข้าว
รูปภาพขั้นตอนการสกัดน้ำมันกัญชาแบบบ้านๆ โดยใช้หม้อหุงข้าว

สุดท้ายภรรยาของบังก็สู้กับโรคร้ายนี้ไม่ไหว ต้องยอมรับว่าเธอเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวหรือลูคีเมียเป็นโรคมะเร็งที่ร้ายแรงจริงๆ อาการทรุดเร็วมากกว่าโรคมะเร็งอื่นๆ และยังได้รับยาเคมีบำบัดที่รุนแรงอีกมันเกินกว่าที่ผู้หญิงตัวเล็กๆคนนึงจะอดทนได้ เธออดทนมาได้ 1ปี 6เดือน ซึ่งถือว่านานมากแล้วสำหรับโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว ถึงตรงนี้บังบอกได้เลยคับว่าทางออกของโรคมะเร็งไม่ใช่ยาเคมีบำบัดจริงๆ สหายลองเซิร์ทใน Google ว่าโรคที่มีคนเสียชีวิตมากที่สุด ดูนะคับ ถ้ายาเคมีบำบัดคือทางออกของมนุษยชาติจริงๆ สิ่งที่สหายเจอในคำค้นหาต้องไม่ใช่ "โรคมะเร็ง"


และหวังว่าประสบการณ์ของบังจะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อยกับสหายทุกๆท่านนะคับ บังไม่มีงานวิจัย ไม่มีการรับรองจากหน่วยงานอะไรทั้งนั้น สิ่งเดี๋ยวที่บังมีคือประสบการณ์การใช้กัญชารักษาผู้ป่วยโรคมะเร็ง บังไม่รู้ว่ากัญชามันจะรักษาโรคมะเร็งได้หรือไม่ แต่คนที่สอนวิธีสกัดน้ำมันกัญชาและยังเป็นผู้ป่วยโรคมะเร็งลำไส้ ท่านยังมีชีวิตอยู่จนถึง ณ ปัจจุบันนี้ โดยใช้น้ำมันกัญชาในการรักษาเป็นหลัก ควบคู่กับผลการตรวจของแพทย์แผนปัจจุบัน




ประสบการณ์ตรงใช้น้ำมันกัญชารักษาโรคคนแก่


บังได้ใช้น้ำกัญชารักษาโรคของคนแก่หรือผู้สูงอายุ อย่างเช่นโรคนอนหลับๆตื่นๆ สหายลองไปถามลุง ป้า น้า อา ตา ยาย ผู้สูงอายุดูนะคับส่วนมากคนที่อายุมากแล้วจะมีปัญหาในด้านการนอนหลับ บังได้ใช้น้ำมันกัญชากับคุณแม่ของบังเองซึ่งเธอเองก็เป็นหนึ่งในคนที่เป็นโรคนี้ พอการพักผ่อนไม่ต่อเนื่องและสมบูรณ์มันทำให้สุขภาพของแม่บังค่อยๆแย่ลงทุกวัน โรคนู้นโรคนี้ก็ถามหา ตามมากัญเป็นแถวเข้าโรงพยาบาลเป็นว่าเล่น หลังจากที่บังได้ทำน้ำมันกัญชาและต้มน้ำให้เดือดไปเด็ดใบกัญชาสดมาใส่หรือชง คล้ายชงชาให้ท่านดื่มระหว่างวันและหยดน้ำมันกัญชาในตอนหัวค่ำหรือตอนนอนเท่านั้น


เช่นเดิมคับบังไม่มีหลักฐานงานวิจัยอะไรรับรองทั้งนั้น ที่เดียวที่บังเห็นกับตาคือหลังจากการใช้น้ำมันกัญชาได้ 1-2เดือน การนอนหลับของคุณแม่ดีขึ้น นอน 3ทุ่ม ตื่น 8โมงเช้า หลังจากตื่นมาสหายว่าคนที่ได้นอนหลับยาวขนาดนี้หน้าตาจะสดชื่นไหมคับ ถูกต้องแล้วหน้าตาคุณแม่บังสดชื่นขึ้น เดินเหินได้คล่องขึ้น ทำอะไรมีสมาธิมากขึ้น ทานข้าวได้มากขึ้น โรคภัยที่เคยรุมเร้าก็จางหาย เหลือแค่โรคคนแก่ทั่วไป ไม่ต้องเข้าโรงพยาบาลอีกเลยนับตั้งแต่วันนั้น

บังเป็นกำลังใจให้ทุกๆท่านที่กำลังมีปัญหาหรือโรคภัย ลองศึกษาและเปิดใจดูนะคับ กัญชาก็คือต้นไม้ที่โตจากดิน ผักบุ้งก็โตจากดิน ส้มโอผลไม้ก็โตจากดินทานแล้วได้สารอาหารมีประโยชน์ ส่วนยาเคมีมันไม่ได้ให้ผลดีกับร่างกายมนุษย์เลยคับ มันมีแต่จะทำให้เราแย่ลงไปเท่านั้นในระยะยาว

รูปภาพขั้นตอนการสกัดน้ำมันกัญชาเอทิลแอลกอฮอร์ โดยใช้หม้อหุงข้าว
รูปภาพขั้นตอนการสกัดน้ำมันกัญชาเอทิลแอลกอฮอร์ โดยใช้หม้อหุงข้าว

รูปภาพขั้นตอนการสกัดน้ำมันกัญชาแบบบ้านๆ โดยใช้หม้อหุงข้าว


ก่อนที่ภรรยาของบังจะจากโลกใบนี้ไป อย่างน้อยบังก็ยังได้นั่งดูเธอนอนหลับและยิ้มในบางวัน พอเธอตื่นมาเธอจะพูดกับบังว่า "หิวแล้ว" ได้เห็นหน้าตาที่สดชื่นที่สุด แค่นี้ก็เกินพอแล้วคับ จากคนที่ 2วัน ทานข้าวได้ครึ่งจาน นอนก็หลับๆตื่นๆตัวร้อนเหมือนเป็นไข้ตลอดเวลา สุขภาพมันจะดีได้ยังไงถูกไหมคับ สุดท้ายบังเป็นกำลังใจให้สหายทุกๆท่านนะคับที่กำลังเผชิญปัญหาบังขอให้ใช้สติ คิดวิเคราะห์ แยกแยะ ให้ดี บังเชื่อว่าทุกคนเลือกทางที่ดีที่สุดให้กับคนที่เรารักเสมอคับ 💚



เขียนบทความโดย BANGAY BONG ZING


 









0 ความคิดเห็น

Comments


bottom of page