เขียนโดยร้าน BANGYA BONG ZING วันที่ 12 ตุลาคม 2567
วันนี้ (10 ต.ค.) พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า เมื่อวันที่ 9 ต.ค.67 สำนักปราบปรามยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส. ได้ดำเนินการต่อเรื่องร้องเรียนเบาะแสยาเสพติด ผ่านสายด่วน ป.ป.ส. โทร 1386 เกี่ยวกับพฤติการณ์ของชาวเวียดนามที่เสพกัญชาและสร้างความเดือดร้อนให้กับคนในชุมชน
ถึงแม้ว่าปัจจุบันกัญชาจะไม่ถูกจัดเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 5 แต่ปัญหากัญชายังคงส่งผลกระทบสร้างความเดือดร้อนต่อสังคม ซึ่ง สำนักงาน ป.ป.ส. ไม่ได้นิ่งนอนใจ พร้อมดำเนินการตรวจสอบอย่างทันที เพื่อให้ประชาชนในสังคมได้รับความพึงพอใจและรู้สึกปลอดภัยในการดำเนินชีวิต รวมถึง อีกหลายประเทศได้รับผลกระทบต่อปัญหากัญชาที่ถูกลักลอบลำเลียงจากประเทศไทยไปยังประเทศที่สาม
อย่างกรณี เมื่อวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา Mr. Mark Gooding OBE เอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทย พร้อมคณะเดินทางเข้าพบ เลขาธิการ ป.ป.ส. เพื่อหารือเรื่องปัญหาการลักลอบลำเลียงกัญชาจากประเทศไทยไปยังสหราชอาณาจักร โดยพบว่าในปี พ.ศ.2567 พบการลักลอบลำเลียงกัญชา
ซึ่งมีต้นทางจาก 'ประเทศไทย' ไปยังสหราชอาณาจักรในสัดส่วนสูงขึ้นเป็นอย่างมาก ซึ่งทาง ป.ป.ส. ได้ให้ข้อมูลกฎหมายเกี่ยวกับกัญชาในปัจจุบัน รวมทั้งพร้อมให้ความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารกับหน่วยงานปราบปรามอาชญากรรมแห่งชาติ สหราชอาณาจักร (National Crime Agency: NCA) และหน่วยงานต่างประเทศอื่น ๆ เพื่อสืบสวนขยายผลต่อครือข่ายยาเสพติด" เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าว
พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ กล่าวต่อว่า จากการหารือดังกล่าว สำนักปราบปรามยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส. จึงได้ติดตามเฝ้าระวังปัญหากัญชาที่จะส่งผลกระทบสร้างความเดือดร้อนต่อสังคมอย่างใกล้ชิด โดยผลการดำเนินงานครั้งนี้สืบเนื่องจาก
เมื่อวันที่ 9 ก.ย.67 พลเมืองดีได้แจ้งเบาะแสร้องเรียนยาเสพติดผ่านสายด่วน ป.ป.ส. โทร 1386 ให้ข้อมูลว่า กลุ่มชาวเวียดนาม มีพฤติการณ์เสพกัญชาส่งกลิ่นเหม็นรบกวน และพบการขนกระสอบคาดว่าเป็นกัญชาแปรรูป ที่บ้านเช่าในพื้นที่ แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กรุงเทพฯ ตนจึงมอบหมายให้ นายปฤณ เมฆานันท์ ผอ.สำนักปราบปรามยาเสพติด สั่งการชุดปฏิบัติการเข้าตรวจสอบข้อมูลดังกล่าวทันที
ผลการตรวจสอบพบ ชายชาวเวียดนามจำนวน 7 คน ภายในบ้านพักพบกัญชาบดจำนวน 128 กก. บรรจุอยู่ภายในกระสอบ 17 กระสอบ กรณีการส่งกลิ่นกระทบประชาชนในพื้นที่เจ้าหน้าที่ได้นำตัวส่ง สน.บึงกุ่ม เพื่อดำเนินคดีข้อหา "ก่อความเดือดร้อนรำคาญ"
โดยเปรียบเทียบปรับเป็นเงิน 5,000 บาท และจากการสอบสวนผู้ต้องหาชาวเวียดนามทั้งหมดนำกัญชาไปจำหน่ายให้กับลูกค้าในพื้นที่กรุงเทพฯ โดยไม่มีใบอนุญาตให้จำหน่ายและแปรรูปสมุนไพรควบคุมเพื่อการค้า กรมการแพทย์แผนไทย
จึงได้ดำเนินคดีต่อผู้ต้องหา ตามความผิดตามมาตรา 46 แห่ง พ.ร.บ.คุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย พ.ศ.2542 ซึ่งต้องถูกระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยวันนี้ (10 ต.ค.) พนักงานสอบสวนจะนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งฟ้องต่อศาลต่อไป
สินค้ากัญชาไทยคุณภาพพรีเมี่ยมจากร้าน BANGYA BONG ZING
Comments